หลายคนที่เคยไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อน จะเห็นว่ามีเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีวางจำหน่ายอยู่ในทุกงานเทศกาลนั่นก็คือ “ Ramune ” หรือน้ำโซดาสไตล์ญี่ปุ่น
รามูเนะ เป็นเครื่องดื่มอัดลมของ ประเทศญี่ปุ่น ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะในหน้าร้อน หรือในช่วงเทศกาลต่างๆชื่อของรามูเนะ “Ramune (ラムネ) ” เป็นภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงคำว่า “lemonade” ในภาษาอังกฤษนั่นเอง รสดั้งเดิมของรามูเนะคือรสเลมอน ที่มีความหวานสดชื่น บรรจุอยู่ในขวดแก้ว และยังมีรสชาติอื่นอีกมากมายที่มีวางจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งรสสตรอเบอรี่ แอปเปิ้ลเขียว สับปะรด และรสผลไม้อื่นๆ อีกนานาชนิด นอกจากนี้ยังจะสามารถลองเครื่องดื่มรามูเนะรสแกงกะหรี่ รสทาโกะยากิ รสกิมจิ หรือแม้แต่รสวาซาบิในบางร้านค้าได้อีกด้วย
สาเหตุที่รามูเนะได้รับความนิยม ไม่ได้เป็นเพียงแค่รสชาติเท่านั้น แต่การเปิดขวดรามูเนะ ก็สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจก่อนดื่มได้อีกด้วย ขวดของรามูเนะจะทำจากขวดแก้ว โดยบนหัวขวดจะมีลูกแก้วที่รองรับแรงกดของก๊าซคาร์บอนที่อยู่ในเครื่องดื่ม พร้อมด้วยฝาเปิดพลาสติกด้านบนสุดของขวด ซึ่งฝาเปิดพลาสติกตัวนี้จะทำหน้าที่ผลักลูกแก้วให้ไปอยู่ที่บริเวณคอขวด จากนั้นเครื่องดื่มจะไหลออกมา แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าลูกแก้วจะไหลออกมาด้วย เพราะมันจะถูกกักไว้ข้างในขวดนั่นเองค่ะ
ทำไมในขวด “ Ramune ” ต้องมีลูกแก้ว ?
เม็ดลูกแก้วในขวด คือ หัวใจสำคัญที่ทำให้ก๊าซคาร์บอนิกหรือก๊าซโซดายังอยู่ในขวด เม็ดลูกแก้วจะประกบกับปากขวดพอดี ทำให้ก๊าซคาร์บอนิก ไม่ระเหยออกไป นั่นเป็นเพราะแรงดันอากาศของก๊าซคาร์บอนิก จะถูกอัดไว้ในขวดด้วยเม็ดลูกแก้วนั่นเอง เม็ดลูกแก้วมีความคงทน กว่าจุกไม้ก๊อกแบบในอดีต โดยเมื่อญี่ปุ่นรับเอาเทคนิค ในการใช้ลูกแก้วมาจาก ประเทศอังกฤษ ก็ได้นำมาพัฒนาต่อในแบบของตัวเอง ส่วนขวดแก้วน้ำramune ที่ทำขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ก็มีมาตรฐานสูง ในสมัยก่อนปากขวดก็จะทำด้วยแก้วด้วยเช่นกัน แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงให้ปากขวดทำจากพลาสติกได้แล้ว
และนี่ก็เป็นเกร็ดความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับน้ำ รามูเนะ เครื่องดื่มคู่ใจคลายร้อนของชาวญี่ปุ่น เพื่อนๆคนไหนที่เคยสงสัยเกี่ยวกับ เครื่องดื่มตัวนี้ ก็คงหายสงสัยไปได้เยอะเลยใช่ไหมละคะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยดื่ม ก็อย่าลืมลองไปดื่มกันนะคะ รับรองว่าดื่มแล้วสดชื่น ลืมความร้อนระอุในหน้าร้อนนี้ที่ญี่ปุ่นได้เลย
