เน็ตจูโช(熱中症/Necchuushou )
เน็ตจูโช หลายท่านอาจจะเคยได้ยินจนคุ้นหูกันแล้ว เพราะที่ญี่ปุ่นพอถึงฤดูร้อนทีไรเรามักจะได้ยินคำนี้บ่อยๆ เน็ตจูโช หมายถึงโรคลมแดด เกิดจากสภาวะร่างกายที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น เกิดความไม่สมดุลในร่างกายเนื่องจากขาดน้ำและเกลือแร่ หรือตัวควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ทำงาน ทำให้เกิดอาการต่างๆเช่น อุณหภูมิร่างกายสูง, หน้ามืด, ชัก, ปวดหัว เป็นต้น
อย่างที่ทราบกันคือ ช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน–เดือนสิงหาคมของทุกปี แต่มาระยะหลังนี้ อาจจะเป็นเพราะภาวะโลกร้อน ทำให้รู้สึกว่าเดือนพฤษภาคมก็เริ่มร้อนแล้วและร้อนไปถึงเดือนกันยายนกันเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละปีจะมักจะมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้และมีข่าวผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ทุกปี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ
ยอดจำนวนผู้ป่วยโรคลมแดดของปี 2019 ที่ผ่านมา ระหว่างเดือนพฤษภาคม–เดือนกันยายน มีทั้งหมด 71,317 คน (เยอะจัง)
ซึ่งแพทย์ญี่ปุ่นและผู้เกี่ยวข้องก็เป็นห่วงกันว่าปีนี้จะมีผู้ป่วยโรคลมแดดเพิ่มขึ้น ยิ่งโรคโควิด-19 ยังระบาดด้วย ถ้าหากมีผู้ป่วยโรคลมแดดเพิ่มขึ้น ก็อาจจะทำให้ระบบการแพทย์พังลงได้ ก็เลยได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังเป็นพิเศษ พร้อมแนะแนวทางวิธีป้องกันทั้งโรคโควิดและโรคลมแดดอีกด้วย
ก่อนอื่นเราดูความเสี่ยงของโรคลมแดด ที่มากับโรคโควิด-19 ในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นกัน
สาเหตุแรกคือ “การกักตัวอยู่บ้าน”
เนื่องจากป้องกันโรคโควิด-19 ทำให้หลายคนกักตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน ร่างกายไม่ค่อยได้ขยับไม่มีการขับเหงื่อออก ทำให้ร่างกายปรับความสมดุลไม่ทัน ร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับฤดูร้อนได้ ทำให้เกิดภาวะการขาดน้ำง่าย
สาเหตุที่ 2 คือ “การสวมหน้ากากอนามัย”
– “การสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคโควิด-19” เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเกิดการสะสมความร้อนได้ง่าย
– และ“การสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคโควิด-19” ทำให้ไม่รู้สึกกระหายน้ำ เนื่องจากในภายในหน้ากากอนามัยมีความชื้นนั่นเองทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ
คราวนี้เรามาดูวิธีป้องกันด้วยตัวเอง ที่ทางแพทย์ญี่ปุ่นแนะนำดังนี้
1. พักผ่อนให้เพียงพอ ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ (ควรงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน)
3. เตรียมน้ำดื่มเกลือแร่ 1 ท่านต่อ 2 ขวด/วัน สำหรับ3 วันเสมอ เพื่อดื่มทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่ขาดไปได้อย่างรวดเร็ว
4. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 3 มื้อ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
5. ทำร่างกายให้เย็นอยู่เสมอโดยอยู่ในที่ร่มหรือเปิดแอร์ หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อนอบอ้าว
6. ควรหมั่นเช็คอุณหภูมิในห้อง หรือติดตามข้อมูลสภาพอากาศในแต่ละวันตามเน็ตหรือโทรทัศน์เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
7. ออกกำลังกายบริเวณในบ้านหรือออกไปเดินออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้ร่างกายชินกับฤดูร้อน แต่ควรเลี่ยงจากการเจอสัมผัสพูดคุยกับผู้อื่น เพื่อป้องกันโรคโควิด-19
จุดสำคัญคือ
*เปิดหน้าต่าง2 จุด เพื่อสร้างทางผ่านของลม ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
*แต่สำหรับห้องที่มีหน้าต่างแค่ 1 จุด ให้เปิดประตูห้องและหน้าต่างแล้วเปิดพัดลมให้หันไปทางหน้าต่างที่เปิดไว้ เพื่อไล่อากาศออกไปด้านนอก เพื่อให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น
แต่แนะนำให้คล้องกลอนโซ่ไว้ แล้วแง้มประตูเอาดีกว่า เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
สุดท้ายนี้เพื่อนๆอย่าลืมป้องกันโรคโควิด-19ด้วยน๊า ล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยงหรือมีผู้คนแออัด
