【แนวทางเกี่ยวกับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศญี่ปุ่น】
◆ขั้นตอนโดยรวมของแพ็คเกจทัวร์ (กำหนดการเดินทางล่วงหน้า)
1. ต้องจองเป็นแพ็คเกจทัวร์พร้อมผู้นำทัวร์ตั้งแต่เข้าประเทศญี่ปุ่นจนถึงออกจากประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งผู้นำทัวร์อาจมีหลายคนผลัดกันรับผิดชอบได้)
※หัวหน้าทัวร์ = ไม่จำกัดเฉพาะบริษัทผู้รับผิดชอบในญี่ปุ่น อาจจะสามารถเดินทางมาจากต่างประเทศได้
แต่มีเงื่อนไขคือ จำเป็นต้องมีวีซ่าระยะสั้นเพื่อการค้า/การทำงาน
หากมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทางเนื่องจากสภาพอากาศหรือสถานการณ์ที่ไม่สะดวกต่อการเดินทาง ต้องได้รับการยินยอมตอบรับจากบริษัทที่รับผิดชอบ
เพื่อจะได้ระบุระยะของการติดต่อสัมผัสใกล้ชิดเมื่อมีคนติดเชื้อโควิดเกิดขึ้น จำเป็นต้องบันทึกประวัติการเคลื่อนไหวของผู้เข้าร่วมทัวร์(รวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น สถานที่ใช้บริการหรือตำแหน่งที่นั่งในกรณีที่ใช้ระบบการคมนาคมขนส่งต่างๆ เป็นต้น)
※สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะตลอดการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น
2. การเข้าญี่ปุ่นประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวนั้น จำกัดเฉพาะประเทศที่อยู่ในหมวดสีน้ำเงินหรือประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
กลุ่มประเทศที่อยู่ในหมวดสีน้ำเงิน
・ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่น จำเป็นต้องมีใบรับรองผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ที่ทดสอบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
・ ผู้รับผิดชอบในการรับรอง = บริษัทท่องเที่ยว ซึ่งจำเป็นต้องลงทะเบียนลงในระบบ ERFS (Entrants, Returnees Follow-up System)
・ ต้องขอวีซ่าพำนักระยะสั้นด้วยเหตุผลพิเศษ
・ ผู้รับผิดชอบในการรับรอง ต้องยอมรับตกลงทำสัญญากับ ERFS (วัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว นั้นจำเป็นต้องตกลงยอมรับสัญญาพิเศษ)
3. สิ่งสำคัญที่ผู้รับผิดชอบในการรับรองควรรับมือเมื่อต้องรับทำทัวร์
・จะต้องดำเนินการอบรมผู้นำทัวร์ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ
・มีหน้าที่ใช้บริการและตรวจสอบการลงทะเบียน Fast Track และ Visit Japan Web ล่วงหน้าของผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าประเทศญี่ปุ่นก่อนจะออกจากประเทศของตนเป็นต้น
・มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับ “ประกันสุขภาพเอกชน” ให้กับผู้ร่วมทัวร์
※ไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับเนื้อหาหรือจำนวนเงินชดเชย แต่ควรเป็นประกันที่มีความคุ้มครองเพียงพอสำหรับรักษาโรคไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)
※มีจำหน่ายที่ต่างประเทศและในญี่ปุ่น (*ประกันอุบัติเหตุการเดินทางไปต่างประเทศด้วยบัตรเครดิตอาจมีความคุ้มครองต่ำ)
ประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติขาเข้าโดยเฉพาะที่ซื้อได้ในประเทศญี่ปุ่น
องค์การการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น HP (่ภาษาญี่ปุ่น):
➡ https://www.jnto.go.jp/emergency/jpn/ov_travel_insurance.html
องค์การการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น HP (่ภาษาอังกฤษ):
➡ https://www.jnto.go.jp/emergency/eng/ov_travel_insurance.html
・ผู้รับผิดชอบในการรับรองกับการจัดการการเคลื่อนไหวของผู้ร่วมทัวร์ → มีการจำกัดอิสระในการเดินทางหรือการเคลื่อนไหวของนักท่องเที่ยว (อนุญาตให้อยู่ภายในบริเวณที่ผู้นำทัวร์สามารถมองเห็นได้เท่านั้น)
・รับมือในกรณีที่มีคนติดเชื้อโควิดหรือมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดโควิด
4. อื่นๆ
・ สำหรับประเทศกลุ่มสีน้ำเงิน จะไม่มีการสอบถามว่าได้ฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ได้ฉีด
・ สำหรับประเทศกลุ่มสีน้ำเงิน ยกเลิกการตรวจโควิดแบบหาปริมาณแอนติเจนเมื่อมาถึงญี่ปุ่น
・ ในญี่ปุ่น ไม่มีพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าชมได้ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2022 (ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจุดหมายปลายทาง)
5. มาตรการควบคุมการติดเชื้อที่จำเป็นสำหรับผู้รับผิดชอบในการรับรองและผู้นำทัวร์
<การจัดการด้านสุขภาพของผู้เข้าร่วมทัวร์>
- เช็คข้อมูลผลการวัดอุณหภูมิทุกเช้า
- เช็คข้อมูลผลหากสุขภาพของผู้ร่วมทัวร์มีการเปลี่ยนแปลง
- บันทึกประวัติการเคลื่อนไหวหรือเดินทาง
- เก็บข้อมูลที่สามารถติดต่อได้ของผู้เข้าร่วมทัวร์ไว้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากสิ้นสุดทัวร์ลง
6. การเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ร่วมทัวร์ เกี่ยวกับสวมหน้ากากอนามัย และ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อ
①ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการติดเชื้อโดยใช้เป็นแผ่นพับหรือวีดิทัศน์ ฯลฯ
②การใช้มารยาทการเดินทางใหม่ (ฉบับหลายภาษา) ดังนี้
PDFเกี่ยวกับมารยาททั่วไป(ภาษาอังกฤษ)
PDFมารยาทเกี่ยวกับด้านที่พัก/อาหารและเครื่องดื่ม(ภาษาอังกฤษ)
PDFมารยาทเกี่ยวกับการคมนาคม(ภาษาอังกฤษ)
PDFมารยาทเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวแหล่งช้อปปิ้ง(ภาษาอังกฤษ)
③อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับทัศนะของรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย ฯลฯ
ก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น
◆ขั้นตอนด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อการท่องเที่ยว
1. การสมัครลงทะเบียนIDใหม่ / การอนุมัติของระบบ ERFS (ระบบตรวจสอบสุขภาพคนเข้าเมือง)
บริษัทท่องเที่ยวหรือตัวแทนท่องเที่ยวต่างๆในญี่ปุ่น ที่รับผิดชอบในการรับรอง จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับ ID ได้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2022 เป็นต้นไป
ตอนที่ลงทะเบียนจำเป็นต้องมีใบแจ้งการจดทะเบียนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหรือธุรกิจบริการท่องเที่ยวกับหน่วยงานรัฐของญี่ปุ่น
※หมายเหตุ ใบแจ้งการจดทะเบียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ควรเป็นวันที่ล่าสุดในการแจ้งเตือนการลงทะเบียนใหม่ / การต่ออายุ / การเปลี่ยนแปลง
เว็ปไซต์เข้าสู่ระบบ สมัครID เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ให้ชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้าประเทศญี่ปุ่น
➡ https://entry.hco.mhlw.go.jp/
2. ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าประเทศญี่ปุ่นจำเป็นจะต้องลงทะเบียนออนไลน์ในระบบ ERFS ล่วงหน้าก่อน ซึ่งบริษัทผู้รับผิดชอบที่อยู่ในญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทะเบียน
ตอนลงทะเบียนให้เลือกวัตถุประสงค์เพื่อการ “ท่องเที่ยว”
ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียนออนไลน์
1. ชื่อ-นามสกุล ของผู้ที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่น (ระบุตามหนังสือเดินทาง)
2. วันเดือนปีเกิด
3. เพศ
4. หมายเลขหนังสือเดินทาง (ระบุตามหนังสือเดินทาง)
5. สัญชาติ/ภูมิภาค (ระบุตามหนังสือเดินทาง/ตัวอักษรอังกฤษ 3 หลัก)
6. สถานที่พัก/ที่อยู่ ※ไม่จำเป็นต้องรายงานแผนการเดินทางทั้งหมด แต่ระบุชื่อสถานที่และที่อยู่ของสถานที่แรกที่เข้าพัก
7. ข้อมูลติดต่อ / อีเมลของผู้ที่จะเข้าประเทศญี่ปุ่น (ขอเบอร์โทรศัพท์เผื่อไว้จะดีที่สุด)
8. ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ ของผู้รับผิดชอบในการรับรอง
※ ใช้เวลาป้อนข้อมูลประมาณ 10 นาที/คน, ใช้เวลาลงทะเบียน 5 นาที/คน, ใช้เวลาออกใบรับรองประมาณ 10 นาที (ใบรับรองการรับลงทะเบียนมีอายุ 3 เดือนหลังจากออกใบแล้ว)
โดยทั่วไปการลงทะเบียนจะป้อนเข้าได้ทีละคน หากจะ”ลงทะเบียนทั้งหมดในครั้งเดียว” สามารถอัปโหลดข้อมูลหลายคนพร้อมกันได้ในไฟล์ CSV
※วีซ่าจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันหลังจากที่ได้รับใบสมัคร (แต่อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ของแต่ละประเทศ กรุณาตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำแต่ละประเทศ)
※หลังจากที่ได้รับแล้ว ไม่จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อเปลี่ยนข้อมูลวันที่จะเข้าประเทศญี่ปุ่นต่างๆในระบบ ERFS
กรณีหลังจากออกใบรับรองแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ แต่จำเป็นต้องลงทะเบียน ERFS ใหม่อีกครั้งสำหรับ “ผู้เข้าร่วมทัวร์ทั้งหมด” และเมื่อลงทะเบียนใหม่แล้ว จำเป็นต้องลบข้อมูลที่ได้ลงทะเบียนก่อนหน้า(อันเก่า)ด้วย
ดังนั้นขอให้คาดการณ์ไว้ก่อนเสมอว่าอาจจะจำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ จึงขอแนะนำให้จัดการผู้เข้าร่วมทัวร์ด้วยเทมเพลต CSV ในหน้าการลงทะเบียน ERFS
อย่างไหรก็ตาม ก่อนออกใบรับรองสามารถแก้ไขชื่อผู้เข้าร่วมหรือจำนวนผู้เข้าร่วมได้ทีละรายการ ซึ่งจำเป็นต้องบันทึกการลงทะเบียนทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง
3. ดำเนินการขอวีซ่าที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำแต่ละประเทศ
หลังจากที่ทางผู้รับผิดชอบในการรับรองได้รับใบยืนยันการรับลงทะเบียนแล้ว(PDF) และตรวจสอบความถูกต้องแล้วจะทำการส่งใบรับลงทะเบียนไปยังผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นต่อไป
ตามหลักทั่วไปแล้ว ในการยื่นวีซ่านั้นผู้ที่ประสงค์เข้าประเทศญี่ปุ่นนั้นจะต้องเป็นผู้ยื่นดำเนินการขอวีซ่าด้วยตัวเองในประเทศของตน(เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยหรือศูนย์ขอวีซ่าญี่ปุ่น)
※โปรดทราบว่า โดยทั่วไประยะเวลาที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่าในการออกวีซ่าคือ 5 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับใบยื่นเรื่อง
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาของคำร้อง อาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่จะออกวีซ่า
◆ขอสำเนาใบรับรองประกันสุขภาพเอกชนจากผู้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
- เป็นประกันสุขภาพที่สามารถคุ้มครองรักษาโรคโคโรน่า (รวมถึงที่ไม่มีอาการ) โดยต้องมีการระบุรายละเอียดการชดใช้ค่ารักษาและจำนวนเงินที่รองรับในการรักษาในประกันสุขภาพด้วย
◆บริการ Visit Japan Web / หน่วยงานดิจิทัล
เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแก่ผู้เดินทางชาวต่างชาติที่จะเข้าญี่ปุ่น (รวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ) ยื่นเรื่องส่งข้อมูลการกักกัน การตรวจคนเข้าเมือง พิธีการศุลกากรตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
Visit Japan Web Services(ภาษาอังกฤษ)
Visit Japan Web Services(ภาษาญี่ปุ่น)
คุณสามารถทำอะไรกับเว็บ Visit Japan Web ได้บ้าง?
- สามารถทำการอัพโหลดใบรับรองการตรวจสอบที่แปลงเป็นดิจิทัลแล้ว
- สามารถป้อนข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเข้าประเทศญี่ปุ่น
- สามารถป้อนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับด่านตรวจคนเข้าเมือง
- สามารถป้อนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียนศุลกากร
- สามารถแสดงใบรับรองผลทดสอบการตรวจโควิด-19ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว
- การแสดงบาร์โค้ดสองมิติ(2D barcode) เพื่อให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
- แสดงบาร์โค้ดสองมิติ(2D barcode) เพื่อให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ด่านศุลกากร
สิ่งที่จำเป็นต้องใช้
・ใบรับรองผลการทดสอบการตรวจโควิด-19ที่แปลงเป็นรูปแบบดิจิทัลแล้ว
・หนังสือเดินทาง
คู่มือการใช้บริการเว็บไซต์ Visit Japan Web (PDF)
คู่มือการใช้บริการเว็บ Visit Japan Web ภาษาอังกฤษ (PDF)
คู่มือการใช้บริการเว็บ Visit Japan Web ภาษาญี่ปุ่น (PDF)
◆ขั้นตอนการลงทะเบียนข้อมูลการกักกันล่วงหน้า (fast track) / กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ
ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นคุณสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับขั้นตอนการกักกันที่สนามบินโดยการลงทะเบียนล่วงหน้าในแอปอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนวันและเวลาตามกำหนดการของเที่ยวบินที่จะมาถึงญี่ปุ่น
Fast Track ให้บริการเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นที่สนามบินนานาชาตินาริตะ, สนามบินฮาเนดะ, สนามบินนานาชาติชูบุ, สนามบินนานาชาติคันไซ และสนามบินฟุกุโอกะ
เว็บ fasttrack (ภาษาอังกฤษ)
➡ https://www.hco.mhlw.go.jp/fasttrack/en/
เว็บ fasttrack (ภาษาญี่ปุ่น)
➡ https://www.hco.mhlw.go.jp/fasttrack/
สิ่งที่ต้องเตรียม
・สมาร์ทโฟนต่างๆที่ติดตั้งแอป My SOS
・หมายเลขหนังสือเดินทาง(หมายเลขพาสปอร์ต)
・ใบรับรองการฉีดวัคซีน (ไม่บังคับ)
・ใบรับรองผลการทดสอบการตรวจโควิด-19 (ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง)
วิธีใช้My SOS
Step1 ติดตั้งแอป My SOS
➡ https://mysosp.page.link/sfY2kRrviv4t4eFy7
Step2 ลงทะเบียนเอกสารที่จำเป็นจากแอป My SOS
แบบสอบถาม, หนังสือปฏิญาณตน, ใบรับรองการฉีดวัคซีน (ให้เลือก “ลงทะเบียน หรือ ไม่ลงทะเบียน”), ลงทะเบียนใบรับรองผลการทดสอบการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
Step3 การพิจารณาตรวจสอบ
เมื่อรายละเอียดการลงทะเบียนได้รับการยืนยันจากศูนย์เซ็นเตอร์แล้วหน้าจอแอปจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงิน
※หากคุณสมัครก่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนวันและเวลาตามหนดการของเที่ยวบินที่จะมาถึงญี่ปุ่น การตรวจสอบก็จะเสร็จสิ้นพอดีเมื่อคุณมาถึงญี่ปุ่น
Step4 แสดงหน้าจอ My SOS ตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น
สำหรับหน้าจอเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงิน ให้แสดงหน้าจอโดยทำตามขั้นตอนด้านล่างต่อไปนี้
・ ยืนยันการดาวน์โหลด My SOS
・ป้อนแบบสอบถามและหนังสือปฏิญาณตน
・ยืนยันว่ามีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือไม่
・ยืนยันใบรับรองผลการทดสอบการตรวจโควิด-19 ที่ทำการทดสอบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
กรณีหน้าจอเป็นสีเหลือง ให้แสดงหน้าจอโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
・ยืนยันการดาวน์โหลด My SOS
・ป้อนแบบสอบถามและหนังสือปฏิญาณตน
・ยืนยันว่ามีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือไม่
คู่มือการลงทะเบียนการกักกันล่วงกน้า (Fast Track) / ศูนย์ตรวจสุขภาพคนเข้าเมือง กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ
➡ คู่มือการลงทะเบียนการกักกัน(ภาษาญี่ปุ่น)
ระหว่างที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น
◆ผู้รับผิดชอบในการรับรอง = บริษัทท่องเที่ยวหรือตัวแทนท่องเที่ยวที่ให้บริการการเดินทางต่างๆ รองรับมาตรการควบคุมการติดเชื้อ
- การจัดการด้านสุขภาพของผู้เข้าร่วมทัวร์
<บทบาทหน้าที่ของหัวหน้าทัวร์>
โดยพื้นฐานผู้นำทัวร์จะทำหน้าที่จัดการเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางเป็นหลัก (ในระหว่างอยู่ในประเทศญี่ปุ่น สามารถรองรับผู้นำทัวร์หลายคนได้)
การเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ร่วมทัวร์ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อและความเข้าใจเกี่ยวกับสวมหน้ากากอนามัย
① ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการติดเชื้อ โดยการใช้แผ่นพับ วีดิทัศน์ ฯลฯ
② การใช้มารยาทการเดินทางใหม่ (ฉบับหลายภาษา)
③ อธิบายให้ผู้ร่วมเดินทางได้เข้าใจเกี่ยวกับทัศนะของรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยเป็นต้น
รูปแบบของมาตรการควบคุมการติดเชื้อ:
・ต้องวัดอุณหภูมิทุกเช้า
・มีหน้าที่รายงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพ
・บันทึกประวัติการเคลื่อนไหวหรือการเดินทาง (1 สัปดาห์หลังจากทัวร์สิ้นสุด)
※ให้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆและข้อมูลตำแหน่งที่นั่งโดยสารต่างๆในระบบขนส่งเป็นต้น เพื่อระบุระยะของการสัมผัสใกล้ชิดเมื่อมีคนติดเชื้อเกิดขึ้น
※เนื่องจากผู้ร่วมทัวร์สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะในระหว่างทัวร์ได้ ดังนั้นต้องบันทึกข้อมูลโดยละเอียด (ระบะวันที่และเวลาในการใช้งาน, ชื่อบริษัทขนส่ง, บริเวณที่ใช้, หมายเลขรถ ฯลฯ)
- วิธีคิดเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย
<กรณีอยู่กลางแจ้ง> กรณีเมื่อมีการสนทนากันโดยรักษาระยะห่างตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป = ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย
แต่หากไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ = แนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัย, แต่ถ้าแทบไม่มีการสนทนา = ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
<กรณีอยู่ในร่ม> กรณีที่มีการสนทนากัน(ไม่ว่าจะรักษาระยะห่างหรือไม่ก็ตาม) = แนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัย, แต่ถ้าแทบไม่มีการสนทนา = ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
ถ้าเว้นระยะห่างได้ตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป+แทบไม่มีการสนทนา = ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
- วิธีคิดเกี่ยวกับ การปล่อยอิสระของผู้เข้าร่วมทัวร์
(A)กรณีที่เป็นสถานที่ที่มีความยากต่อการตรวจสอบมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้สำหรับผู้นำทัวร์
<กรณีตัวอย่าง> น้ำพุร้อน ห้องแต่งตัว ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พื้นที่ตรวจโรงพยาบาล ฯลฯ
(B) กิจกรรมกลางแจ้ง (กรณีสามารถรักษาระยะห่างจากผู้คนได้ตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป)
<กรณีตัวอย่าง> สวนสนุก, เดินเล่นชมเมือง, ปีนเขา / เดินป่า, เล่นสกี / สเก็ต, ดูดาวบนท้องฟ้า ขี่ม้า กีฬาทางน้ำ ฯลฯ
(C) กิจกรรมในร่ม (กรณีเป็นสถานที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างจากผู้คนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องมีการสนทนากัน)
<กรณีตัวอย่าง> ชื่นชมศิลปะการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น คาบูกิ, ดูซูโม่/ดูการแข่งขันกีฬา, เข้าชมพิพิธภัณฑ์แบบอิสระเช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ/พิพิธภัณฑ์ศิลปะ/พิพิธภัณฑ์สถานเป็นต้น, ทานอาหารกลางวัน/ทานอาหารค่ำ ฯลฯ เป็นต้น
◆จะทำอย่างไรถ้ามีผู้เข้าร่วมทัวร์เกิดติดเชื้อโควิดเกิดขึ้น
【ขั้นตอนหลังจากที่พบว่ามีคนติดเชื้อเกิดขึ้น】
1. แจ้งผลทดสอบหรือผลตรวจเชื้อโควิด-19
สถาบันทางการแพทย์ที่รับทำการทดสอบจะแจ้งผลให้คุณทราบ หลังจากนั้นศูนย์สุขภาพของเขตที่เกี่ยวข้องจะติดต่อคุณหรือผู้ที่รับผิดชอบในการรับรอง (รวมถึงผู้นำทัวร์)
2. การติดต่อจากศูนย์อนามัย
ศูนย์อนามัยในเขตเมืองที่คุณอยู่จะติดต่อไปหาคุณหรือติดต่อไปทางผู้ที่รับผิดชอบการรับรอง (รวมถึงผู้นำทัวร์) เพื่อประสานงานและสำรวจสถานที่รับการพักฟื้น
ศูนย์อนามัยจะประสานงานกับสถานที่ที่รับการพักฟื้นหลังจากตรวจสอบเกี่ยวกับอาการ อายุ มีโรคประจำตัวหรือไม่เป็นต้น
โดยหลักแล้ว สถานที่รับการพักฟื้นนั้นจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง สถาบันทางการแพทย์(เข้านอนโรงพยาบาล) หรือ ที่พักสำหรับการรักษาพยาบาล(ที่พักฟื้น)
3. พักฟื้น
คุณจะได้รับการพักฟื้นที่สถานพักฟื้นเป็นระยะเวลาหนึ่งจนกว่าจะผ่านเกณฑ์การยกเลิกการรักษาพยาบาล
นอกจากนี้โปรดทราบว่าในช่วงเวลาระหว่างการพักฟื้นคุณไม่สามารถออกไปไหนได้
4. สิ้นสุดการพักฟื้น
หลังจากได้รับการยกเลิกการพักฟื้นเสร็จสิ้น ก็สามารถจะกลับสู่ชีวิตปรกติ
โปรดใช้มาตรการควบคุมการติดเชื้อที่เหมาะสมต่อไป
※ผู้ที่รับผิดชอบในการรับรอง (รวมถึงผู้นำทัวร์) ควรให้การสนับสนุนต่างๆ แก่บุคคลที่ติดเชื้อ (ประสานงานกับศูนย์อนามัย, ล่าม, จัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ผ้าเช็ดตัว, ช่วยเหลือเกี่วกับการออกจากที่พักฟื้นหรือโรงพยาบาลต่างๆฯลฯ )
▶นอกเหนือจากคนที่ติดเชื้อและคนที่มีความเสี่ยงสูง(สัมผัสใกล้ชิด) ให้อธิบายแก่ผู้เข้าร่วมทัวร์ท่านอื่นๆที่เหลือว่าทัวร์ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ ฯลฯ
▶ระบุขอบเขตของการสัมผัสใกล้ชิดอย่างเหมาะสมตามความเสี่ยง
・ให้ความช่วยเหลือการสื่อสารระหว่างผู้ติดเชื้อกับศูนย์สุขภาพให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น
・นอกจากที่ผู้ติดเชื้อนั้นจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากศูนย์อนามัย ฯลฯ แล้ว ยังมีระบบ “My HER-SYS” : เป็นฟังก์ชันการจัดการด้านสุขภาพที่อนุญาตให้บุคคลที่ติดเชื้อเข้าสู่สถานะสุขภาพของตนเองและสถานะสุขภาพของครอบครัวบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของตนได้) จะถูกแสดงและแชร์กับศูนย์อนามัยที่มีอำนาจการดูแลภายในเขตเมืองที่คุณพัก
● ลิงค์บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโควิด-19 / กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ
➡ ลิงค์บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโควิด-19(ภาษาอังกฤษ)
➡ ลิงค์บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโควิด-19(ภาษาญี่ปุ่น)
● คอลเซ็นเตอร์ที่รองรับหลากหลายภาษา “Japan Visit Hotline” / องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)”
050-3816-2787 (เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด)
● คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เมื่อเกิดการเจ็บป่วย/สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น(JTA) https://www.jnto.go.jp/emergency/eng/mi_guide.html
● คำแนะนำการใช้สถานพยาบาลสำหรับชาวต่างชาติ / สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น(JTA)
➡ https://www.jnto.go.jp/emergency/jpn/support.html
คู่มือสำหรับการดูแลตัวเอง(ภาษาไทย)
➡ https://www.jnto.go.jp/emergency/common/pdf/guide_tai.pdf
● แผ่นพับรองรับภาษาต่างประเทศ My HER-SYS เป็นต้น / กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ https://www.mhlw.go.jp/stf/seisakunitsuite/bunya/0000121431_00295.html
▶บริการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงระหว่างรอจนถึงกลับจากญี่ปุ่น
・หากผู้เข้าร่วมทัวร์ที่กลายเป็นผู้ติดต่อสัมผัสใกล้ชิดขอให้ทำเรื่องกลับออกจากญี่ปุ่น ให้บุคคลนั้นไปปรึกษากับสถานทูตในโตเกียวและถ้าได้รับความยินยอมให้เข้าประเทศได้ หลังจากนั้นก็ให้ปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลท้องถิ่นที่ผู้เข้าร่วมทัวร์พักอยู่ นอกจากนี้ รักษาความปลอดภัยด้วยวิธีการขนส่งโดยเฉพาะไปยังสนามบินขาออกและประสานงานกับสายการบินที่ใช้
・ให้บริการการเดินทางที่จำเป็น (รวมถึงการจัดเตรียมการตรวจหาเชื้อโควิด-19เพื่อลดระยะเวลาการรอ) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทัวร์ที่ออกจากกลุ่มเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 สามารถกลับบ้านได้อย่างราบรื่นหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการรักษาพยาบาล
【แนวทางของสิ้นสุดการรักษาพยาบาลหรือพักฟื้น】
ผู้ป่วยจะออกจากโรงพยาบาลหรือการรักษาพยาบาลจะสิ้นสุดลงหลัง 10 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการและ 72 ชั่วโมงหลังจากอาการบรรเทาลง
กรณีผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หลัง 7 วันนับจากวันที่เก็บตัวอย่างตรวจ จะถูกยกเลิกการรักษาพยาบาล(การสิ้นสุดการรักษา)
หลังจากวันสิ้นสุดการรักษาพยาบาลไปจนกว่าจะถึง 10 วัน โปรดใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อ เช่น ตรวจสอบสุภาพด้วยตัวเองด้วยการวัดอุณหภูมิ, หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง, งดรับประทานอาหารนอกบ้านหรืองดทานอาหารร่วมกัน เป็นต้น
【ขอบเขตของผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19】
ระยะเวลาตั้งแต่ 2 วันก่อนที่ผู้ป่วยติดเชื้อเริ่มมีอาการ (2 วันก่อนวันที่เก็บตัวอย่างสำหรับผู้ที่ไม่มีอาการ) จนถึงสิ้นสุดการรักษาพยาบาลเรียกว่าระยะติดเชื้อและจะเป็นช่วงระยะที่มีโอกาสแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างได้
ในช่วงเวลาที่ผู้ที่ติดต่อสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อในช่วงเวลาดังต่อไปนี้คือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
1. ผู้ที่อาศัยอยู่กับผู้ป่วยหรือสัมผัสใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน (ในรถยนต์ เครื่องบิน ฯลฯ)
2. บุคคลที่ได้ทำการตรวจรักษาผู้ป่วย, พยาบาลคนป่วย หรือดูแลผู้ป่วยโดยไม่มีการป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสม
3. ผู้ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะสัมผัสโดยตรงกับสารปนเปื้อน เช่น สารคัดหลั่งทางเดินหายใจของผู้ป่วย หรือของเหลวในร่างกาย
4. อื่นๆ เช่น ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดเกิน 15 นาทีขึ้นไป โดยไม่มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่จำเป็นเช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นต้น ในระยะมือสัมผัสได้(ควรห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร)
**ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดอาจมีอาการติดเชื้อได้ภายใน 7 วัน (*) นับจากหลังวันติดต่อสัมผัสครั้งสุดท้ายกับผู้ป่วย โปรดดูแลสุขภาพของคุณและถ้าไม่จำเป็นโปรดอย่าออกนอกบ้าน
หลังกลับจากประเทศญี่ปุ่น
◆ข้อมูลติดต่อของผู้เข้าร่วมทัวร์และประวัติการดำเนินการระหว่างทัวร์จะถูกบันทึกไว้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากทัวร์สิ้นสุดลง
● เพื่อเป็นการเตรียมรับมือเมื่อเกิดผู้ติดเชื้อหลังจากทัวร์สิ้นสุดลง ควรบันทึกข้อมูลที่จำเป็นไว้
<เอกสารอ้างอิง>
【Q&Aเกี่ยวกับการเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังวันที่ 10 มิ.ย.เป็นต้นไป เป็นต้น 】(สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น)
➡ https://www.mlit.go.jp/kankocho/content/001487475.pdf
【ระบบยืนยันสุขภาพผู้เข้าประเทศญี่ปุ่น (ERFS) 】
➡ https://entry.hco.mhlw.go.jp/
เอกสารที่แจก ณ เวลาเข้าประเทศ (PDF) ภาษาไทย (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
➡ https://www.isa.go.jp/th/uploads/abo-133_01.handout.pdf
ใบรับรองผลการตรวจโควิด-19 PDF (ภาษาไทย)
➡ https://www.mhlw.go.jp/content/000909639.pdf
ระเบียบการขอวีซ่าประเภทการพำนักระยะสั้น เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมเพื่อน หรือคนรู้จัก