พิพิธภัณฑ์เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งกับถนนสายวัฒนธรรมที่นาโกย่า

By October 24, 2017 No Comments

สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้วล่ะก็ ที่เมืองนาโกย่าก็มีประวัติศาสตร์ไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกันนะ ใครมีเวลาลองไปเดินเล่นสบายๆไปเรื่อยๆ สัมผัสกับกลิ่นอายสมัยเมจิ ไทโช โชวา กันดูน๊า♪

-Futabakan-【二葉館】

二葉館-女優1
ในสมัยนั้นเป็นที่รู้กันว่าบ้านหลังใหญ่หรูแห่งนี้เป็นบ้านของนักแสดงหญิงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นKAWAKAMI SADAYAKKO และเจ้าพ่อพลังงานไฟฟ้าFUKUZAWA MOMOSUKE ซึ่งหลังจากแต่งงานก็ได้อาศัยอยู่ร่วมกันที่บ้านหลังนี้ในช่วงสมัยไทโชปี 9ถึงปี15 ซึ่งพื้นที่ก่อสร้างนั้นมากกว่า 6611.57 ตารางเมตร เป็นการออกแบบผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตกถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่และหรูหรามากในสมัยนั้น ถึงขั้นเรียกกันว่า「ตำหนัก Futaba Goten」กันเลยทีเดียว ทำให้บ้านหลังนี้เป็นแหล่งรวมตัวของผู้นักธุรกิจชื่อดังและนักปราชญ์ชื่อดังมากมาย ต่อมาในปี 2000 ได้มีการปรับปรุงฟื้นฟูอาคารหลังนี้ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนต้นฉบับ ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังงดงามไม่เสื่อมคลาย
(รูปภายนอกอาคารFutabakan)
文化のみち二葉館1
หลังคาสีส้มแบบตะวันตก ลักษณะภายนอกจะตกแต่งด้วยบานกระจกหลากสี ทำให้บริเวณห้องโถงของบ้านสว่างไสวไปทั่ว ภายในบ้านก็จะตกแต่งผสมผสานกันระหว่างแบบมีสไตล์ญี่ปุ่น แบบสไตล์ตะวันออก และตะวันตก เรียกว่าเป็นอาคารที่หล่อหลอมวัฒนธรรมต่างๆเข้าด้วยกันอย่างวิจิตรงดงาม

-Kyu Harutatetsujiroutei-【旧春田鉄次郎邸】
บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ Harutatetsujirou ซึ่งที่นี่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาขายต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จมาก มีบริษัทเป็นของตัวเองชื่อ บริษัท Taiyoshokoukabushikigaisha  เขาได้ไหว้วานให้นายTakeda Goichiซึ่งเป็นนักสถาปนิกออกแบบสร้างบ้านชื่อดังที่สุดคนหนึ่งในญี่ปุ่น ต่อมาในสมัยโชวา ปี 22(1947)ถึงโชวา ปี 26 (1951) ได้ถูกทหารขับเครื่องบินขับไล่ F-5 ยึดไปครอบครอง ปัจจุบันได้กลายเป็นอาหารฝรั่งเศสชื่อ「Dubonnet」และแบ่งอีกโซนเพื่อไว้ให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมได้
ราคาอาหารกลางวันเริ่มต้นที่ 3,150 เยน~ และอาหารมื้อค่ำราคาเริ่มต้นที่ 5,500เยน~ คุณใครที่สนใจก็ลองไปสัมผัสบรรยากาศแบบสมัยไทโชโรมันได้อย่างเต็มอิ่มกับอาหารฝรั่งเศส ก็คงดีไม่น้อยเลย
旧春田鉄次郎邸2.1
(รูปภายนอกอาคารKyu Harutatetsujiroutei)
ดูครั้งแรก อาจจะคิดว่าเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นล้วนๆ แต่ว่าภายในตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรป ทั้งเครื่องแก้วถูกตั้งไว้ตรงหน้าระเบียงและโคมระย้าที่ให้ความสว่างสดใสเป็นต้น เหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกตะวันตกเลยกันทีเดียว

-Toyotasasuketei-【豊田佐助邸】
Toyotasasuke ตั้งอยู่ข้างบ้าน Kyu Harutatetsujiroutei นั่นเอง Toyotasasuke เป็นน้องชายของนักประดิษฐ์ ชื่อดัง Toyoda Sakichi ซึ่งพี่ชายเขามีส่วนในการเกื้อหนุนสนับสนุนเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมานั่นเอง บ้านคฤหาสน์ Sasuke นี้สร้างขึ้นเมื่อปี ไทโช ปี 12 (บางตำราบอกว่าไทโช ปี 4 ) ปูกระเบื้องฝาผนังสีขาว
แปลนบ้านกว้างขวางมีแบ่งเป็นห้องสไตล์ตะวันตกกว้างขวางและมีห้องสไตล์ญี่ปุ่นตั้งอยู่ข้างๆอย่างเหมาะเจาะ
ปัจจุบันผู้คือกรรมสิทธิ์ คือ (บริษัท Aishin Seiki Co.,Ltd) แต่เมืองนาโกย่าได้ขอยืมที่ดินและอาคารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นและเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมได้อีกด้วย
豊田佐助邸1.1
เป็นบ้านสไตล์ยุโรป
豊田佐助邸3.1
(รูปภายนอกอาคารToyotasasuke)
กำแพงสีขาวคฤหาสน์หลังใหญ่โอ่อ่า

-Shumokukan-【橦木館】
นายImoto Tamesaburou พ่อค้าขายเครื่องปั้นเดินเผา สมัยที่ยังไม่เป็นไทโชจนถึงสมัยเมจิตอนต้น ซึ่งบ่งบอกความเป็นมาของสมัยนั้นๆได้เป็นอย่างดี บ้านหลังนี้มีการแบ่งแปลนออกเป็นโซนๆ คือ โซนอาคารสไตล์ญี่ปุ่น สไตล์ยุโรป สไตล์ตะวันออกและตะวันตก 2 หลัง ห้องชงชา พื้นที่สวนหย่อมเป็นต้น ซึ่งยังหลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ชมกันจนถึงปัจจุบันนี้ อาคารสไตล์ยุโรปนั้น ในสมัยนั้นนิยมตกแต่งเป็นกระจกสี มีการจัดวางตกแต่งไว้ตามที่ต่างๆอย่างสวยงาม
ในช่วงเฮเซ ปี 8 ที่นี่ได้รับเลือกจากเมืองนาโกย่าให้เป็นศิลปะวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ต่อมาในช่วงเฮเซ ปี 20 เดือนมีนาคม ได้ถูกกำหนดให้เป็นภูมิสถาปัตยกรรม

ด้วยความที่อาคาร Shumokukan ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรป ตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างหรูหรา นายTamesaburou มีการส่งออกกระเบื้องดินเผา ทำให้มีการเปิดเจรจาธุรกิจกันขึ้น ทำให้มีการเชิญผู้ซื้อจากตามที่ต่างๆมากมายอีกด้วย
橦木館1.1
(รูปภายนอกอาคารShumokukan)
ปัจจุบันหลังคา Kawarayane ของญี่ปุ่นที่ใช้ปัจจุบันและอาคารที่ส่งแบบสไตล์ยุโรป ที่มีความแมทช์กันอย่างลงตัว ทำให้น่าสนใจเป็นอย่างมาก ภายในมีการตกแต่งเป็นกระจกสีซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจเช่นกัน

ไหนๆก็พูดแล้วแถมให้หน่อย ในสมัยเอโดะ ที่เมืองนี้ได้มีการแบ่งแปลนกัน ที่นี่ได้ถูกแบ่งแปลนได้ประมาณ 1983.47ตารางเมตร  เมืองFukeyashikiถือเป็นเมืองบรรพบุรุษก็ว่าได้ ด้วยความที่พื้นที่กว้างขวางและเป็นต้นกำเนิดของเครื่องปั้นดินเผาชื่อดัง ตั้งอยู่ใกล้กับถนนเมืองใหญ่ Seto・Tajimi และข้างทางเมืองแม่น้ำ Horikawa ทำให้สะดวกสบายในการขนส่ง ทำให้ ในสมัยกลางเมจิ เครื่องปั้นเดินเผาได้มีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นแหล่งรวมของนักจิตรกรเครื่องปั้นดินเผาและนักแปรรูปต่างๆเป็นต้น
ซึ่งจะเห็นได้ว่าสมัยต้นเมจิ บริเวณเมืองนาโกย่า เขต Higashi ku มีโรงงานพิมพ์รูปเครื่องปั้นดินเผากว่า 600 โรงงาน ถือว่าเป็นช่วงพีคสุดๆคือ ตอนที่ญี่ปุ่นมีการผลิตเครื่องปั้นดินเผาส่งออกประมาณ 7-8 ส่วนเป็นของพื้นที่นี้ทั้งหมด

ปัจจุบัน มีร้านกาแฟ เปิดทำการด้วย และมีห้องสไตล์ญี่ปุ่น และยุโรป ห้องพิธีชงชา ห้องประชุมเป็นต้น ซึ่งสามารถให้เช่าได้ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ ไทโชโรมัน ลองไปรับรสชาติกันดูนะคะ

Leave a Reply