วัดเอนเรียคุจิ ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิกะ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ 788 วัดแห่งนี้เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เพราะถือเป็นแหล่งกำเนิดพุทธศาสนาและเป็น แดนศักดิ์สิทธิ์ มาแต่ครั้งโบราณ ภายในวัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ Todo พื้นที่ฝั่งตะวันออก เป็นพื้นที่หลักของวัด มีพิพิธภัณฑ์ห้องเก็บสมบัติที่จัดแสดงสมบัติที่ได้รับการบันทึกให้เป็นสมบัติของประเทศและศิลปะวัฒนธรรมประวัติความเป็นมาของวัดให้ได้ชม , Saito พื้นที่ฝั่งตะวันตก ห่างจากพื้นที่ Todo ไปทางเหนือ 1กิโลเมตร และสุดท้าย Yokawa ห่างจากพื้นที่ Saito ออกไปทางทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้โดยการโดยสารรถบัสจากพื้นที่ Saitoใช้เวลาเดินทาง 10 นาทีค่ะ นอกจากนี้วัดเอนเรียคุจิยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
วัดเอนเรียคุจิ
บริเวณด้านหลังของวัดก็สามารถเดินมาชมความสวยงามของทะเลสาบบิวะ (Biwa Lake) ได้ นอกจากจะได้เห็นวิวทะเลสาบกว้างๆ สบายตาแล้ว นอกจากนี้ที่ก็ยังมีการแสดงโชว์น้ำพุในทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa Flower Fountain) ให้ได้ชมกันอีกด้วย ซึ่งน้ำพุแห่งนี้มี มีความกว้างกว่า 440 เมตร และสามารถพ่นน้ำไปได้สูงถึง 40 เมตร
ขอขอบคุณรููปภาพจาก en.biwako-visitors.jp
ถือว่ามีขนาดน้ำพุที่ใหญ่ เป็นลำดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ รูปร่างของน้ำพุนั้นจะเปลี่ยนลักษณะพ่นน้ำหลายๆแบบสร้างความเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ได้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางคืนมีจัดแสดงโชว์น้ำพุพร้อมไฟประดับหลากสีสัน เป็นภาพบรรยากาศที่ห้ามพลาดกันกันเลยทีเดียว สวยงามอลังการ และโรแมนติกมากๆเลย ซึ่งการแสดงโชว์น้ำพุจะมีแสดงเป็นบางช่วงเวลาก็คือจะมีตอนกลางวัน และก็ตอนเย็น แตกต่างกันไปตามฤดู
ขอขอบคุณรูปภาพจาก i.ytimg.com
แนะนำอีกหนึ่งกิจกรรมที่เมืองโอทสึนั่นก็คือการนั่ง เรือมิชิแกนครูซ (Michigan Cruise) เที่ยวชมรอบๆทะเลสาบบิวะทางตอนใต้ สามารถสนุกสนานและเพลิดเพลินกันไปกับอาหารและดนตรี อีกทั้งสามารถชมทัศนีย์ภาพของทะเลสาบจากดาดฟ้าเรือชิวๆได้อีกด้วย
ขอขอบคุณรูปภาพจากi.pinimg.com
อีกหนึ่งสถานที่สุดท้ายคือบ่อน้ำพุร้อนแช่กายให้หายเหนื่อยล่า ขอแนะนำ บ่อน้ำพุร้อนโอโกโตะ (Ogoto Hot Spring) เป็นบ่อน้ำร้อนที่สามารถแช่ตัวและชมวิวของทะเลสาปบิวะได้ดีด้วย เที่ยวตามสถานที่ต่างๆกันไปแล้วกิจกรรมสุดท้ายก่อนมื้อเย็นก็สามารถมาแช่ตัวพักกายกันให้สดชื่นกันได้