ย่านการค้า สุกาโมะ จิโซโดริ ( Sugamo Jizodori Shopping Street ) ถูกเรียกว่าเป็น “ฮาราจุกุของบรรดาคุณย่าคุณยาย” ที่มีรูปปั้น โทเกนุคิ จิโซซง(Togenuki Jizoson)และ เอโดะโรคุ จิโซซง (Edo Roku Jizoson) 2 รูปปั้นที่คอยปกป้องย่านสุกาโมะ ที่นี่เป็นทั้งย่านการค้า และเมืองแห่งความเชื่อ เป็นศูนย์การค้าที่ไม่ได้มีแค่ผู้สูงอายุแต่มีบรรดาวัยรุ่นมาช้อปปิ้งด้วยเหมือนกันค่ะ
ย่านการค้า สุกาโมะ จิโซโดริ
นอกจากจะเป็นฮาราจุกุของผู้สูงอายุแล้ว ที่นี่ยังมีคนทุกเพศทุกวัยอาศัยอยู่เยอะมาก และเป็นเมืองที่มีแต่ความสงบสุข
มีทั้งวัด ร้านแผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กที่เรียงรายอยู่ตามย่านการค้าสุกาโมะ จิโซโดริ นอกจากจะได้เห็นวัฒนธรรมและความเก่าแก่แล้ว คนที่นี่ยังใจดี และเหล่าบรรดาพ่อค้า ยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดีอีกด้วย
วันนี้เป็นวันที่มีการจัดนิทรรศการแสดงโชว์ของเล่นโคเคชิพอดีเลยค่ะ(ภายในห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีรูปภาพมาให้ดูเลย T^T)ซึ่งการประดิษฐ์ของเล่นโคเคชินั้นเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่นนั้นเอง
ใจกลางย่านศูนย์การค้าแห่งนี้มี รูปปั้นโทเกนุคิ จิโซซง แห่งวัดโคกันจิ (Koganji) ถ้าได้เดินผ่านมาแถวนี้ก็เข้ามาสักการะกันได้นะคะ
「การสรงน้ำเจ้าแม่กวนอิม」
ในสมัยเอโดะตอนที่ญี่ปุ่นได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า Great Fire of Meireki(ปี ค.ศ.1657)ภรรยาของสาธุชนรูปหนึ่งได้หายสาบสูญไปในเพลิงไหม้ครั้งนั้น เขาจึงสร้างเจ้าแม่กวนอิม (Arai Kannon) เพื่ออุทิศให้กับภรรยาของเขาที่วัดโคกันจิแห่งนี้ การที่สรงน้ำเจ้าแม่กวนอิมนั้นเป็นเหมือนการล้างสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย ถ้าได้มาที่วัดแห่งนี้จะพบเห็นคนจำนวนมากถือผ้าขนหนูมากดที่ตามอวัยวะต่างๆของเจ้าแม่กวนอิม เพื่อเป็นการมาขอพรให้อวัยวะของตนเองที่เจ็บอยู่นั้นบรรเทาลง
เมื่อเดินเข้ามาในเมืองจะพบเจอกับสิ่งของที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะมากมายเลย
นี่เป็นร้านญี่ปุ่นแบบโบราณที่ขาย ลูกอมคินทาโร่ มองจากภายนอกร้านดูมีความน่ารักมากเลยค่ะ และลูกอมยังให้รสชาติที่อร่อยเหมือนเดิม เป็นร้านขายลูกอมที่ดีจริงๆเลยค่ะ
ร้านที่เห็นอยู่ข้างหน้าคือ ร้านมารุจิ(Maruji) เป็นร้านที่มีคนมาใช้บริการเยอะมากในย่านสุกาโมะ ซึ่งจะขายเกี่ยวกับเสื้อผ้าสีแดง ตั้งแต่เสื้อตัวนอกยันชุดชั้นในเลยค่ะ แล้วทำไมเสื้อผ้าสีแดงถึงได้กลายเป็นที่นิยมไปได้นั้นก็เพราะว่าการใส่เสื้อผ้าสีแดงจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง และยังเป็นสีที่มีความมงคลอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยค่ะที่เรามักจะเห็นเหล่าคนดังๆเขาใส่เสื้อผ้าสีแดงกัน เมื่อเดินเข้ามาในส่วนลึกของย่านการค้าจะพบเจอรถไฟที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน ในโตเกียวถือเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมากเลยล่ะค่ะ รู้สึกดีจริงๆเลยที่ได้เห็นถึงแม้จะมีเพียงแค่ 1 ตู้เท่านั้น
ถ้าเกิดหิวจนเดินช้อปต่อไม่ไหวแล้วล่ะก็ ขอแนะนำ ร้านโทคิวะโชคุโด(Tokiwa Shokudo)ค่ะ ยิ่งเป็นเวลากลางวันช่วงสุดสัปดาห์ของที่นี่นะคะ ลูกค้าเต็มร้านจนต้องยืนต่อแถวรอกันเลย
เมนูในร้านก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายเลยล่ะค่ะ
ของขึ้นชื่อประจำสุกาโมะก็คือ ชิโอะไดฟุกุ (Shio Daifuku) โดยใส่เกลือในปริมาณที่พอดี จึงทำให้ไดฟุกุมีความหวานอร่อยที่ลงตัวเลยล่ะค่ะ จะเดินไปกินไปก็เหมาะเม๋งเลย
ย่านการค้าแห่งนี้มีมาสคอตที่ชื่อว่า สุกามง(Sugamon)ด้วยนะ และที่เห็นอยู่ ไม่ใช่ไดฟุกุยักษ์หรอกนะคะ นั้นคือก้นของเจ้าสุกามง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับทางเข้าของศูนย์การค้าเลย ถ้าได้เข้าไปสัมผัส ลูบๆก้นของสุกามงจะทำให้เกิดแต่เรื่องดีๆค่ะ แต่ถ้าทำรุนแรงใส่ล่ะก็ ผลก็จะเป็นตรงกันข้ามเลยล่ะค่ะ
นี่คือรูปปั้น เอโดะโรคุจิโซซง(Edo Roku Jizoson) ที่อยู่ในวัดชินโช(Shinsho Temple) ที่รูปปั้นจะสวมหมวกร่มขนาดใหญ่และถือไม้เท้าไว้ ซึ่งจะตั้งอยู่ตามทางเข้าออก 6 เมืองของสมัยเอโดะ ที่นี่เป็นองค์ที่ 3 จากใน 6 องค์ค่ะ ซึ่งจะคอยเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง และบรรยากาศตรงนี้ทั้งสงบและร่มเย็นมากเลยค่ะ
แนะนำย่านการค้ากันไปแล้ว ขอแนะนำเป็นที่พักบ้างดีกว่า เผื่อใครไปเที่ยวโตเกียว แล้วไม่อยากได้พักไม่ไกลมาก ก็ขอแนะนำเป็นที่นี่เลย วาซาบิเกสท์เฮ้าส์ ที่อยู่ใจกลางโตเกียว ซึ่งสามารถนั่งไฟไปเที่ยวย่านการค้าแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบายมากเลยล่ะค่ะ
ราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 2600 เยนค่ะ