ธรรมชาติบทความ

10จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดัง ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

By October 29, 2019 No Comments

ที่ญี่ปุ่นนั้นสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เกือบทั่วทั้งประเทศ  โดยจะเริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางตอนเหนือไล่ไปทางตอนใต้ เริ่มที่ฮอกไกโด จากนั้นก็ตามด้วยภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีค่อนข้างเยอะ อาจจะทำให้ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปชมที่ไหนดี เราจึงคัดที่สวยๆ 10จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดัง ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง มาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจค่ะ

1. สวนริคุงิเอน  (rikugien garden) โตเกียว

เป็นสวนที่มีความสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติเลยค่ะ เป็นสวนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 6 ส่วนที่มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่างกัน สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว สร้างขึ้นบนที่ดินราบเรียบธรรมดาขนาด 55 ไร่ ในปี 1702 โดยการถมที่สร้างเนินเขา ผันน้ำเข้ามาสร้างสระน้ำ กลายเป็นสวนญี่ปุ่นแบบไคยูชิกิสึกิยามะเซ็นซุยเทเอ็น (รูปแบบหนึ่งของสวนญี่ปุ่น ที่มีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง มีเนินเขา สะพาน ของประดับกลางสระ และมีเส้นทางให้เดินวนชมสวน โดยมักใช้ทิวทัศน์ของสถานที่มีชื่อเสียงมาเป็นแรงบันดาลใจ) ในปี 1938 ผู้ถือสิทธิ์ครอบครองได้บริจาคสวนแห่งนี้ให้แก่เมืองโตเกียว ประชาชนทั่วไปจึงมีโอกาสได้เข้าชมสวนริคุงิเอนเป็นครั้งแรก และได้รับเลือกเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามของโตเกียวในปี 1953

สวนริคุงิเอนเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่นิยมมากแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้เห็นทัศนียภาพของสวนสไตล์ญี่ปุ่นท่ามกลางสีสันของใบไม้ รวมกับวิวบนเนินเขารอบ ๆ สะพานโทเกสึเคียว (Togetsukyu Bridge) และต้นเมเปิ้ลที่เรียงรายอยู่ริมคลอง สวนริคุงิเอนมีต้นเมเปิลและต้นแปะก๊วยราว 560 ต้น ตอนกลางคืนมีไลท์อัพประดับไฟเปิดให้เข้าชมถึง 21:00 น่ามาชมทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนค่ะ ช่วงไลท์อัพในปี 2019 จัดช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสวน

เวลาเปิดให้บริการของสวนริคุงิเอนคือ 9:00 – 17:00 เข้าสวนได้จนถึง 16:30

ค่าเข้าสวน ผู้ใหญ่ 300 เยน / ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน / เด็กนักเรียนระดับประถมฟรี

วันหยุดประจำปี วันที่ 29 ธันวาคม – วันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป

*ช่วงที่มีไลท์อัพจะเปิดสวน 9:00 – 21:00 เข้าสวนได้จนถึง 20:30

วิธีเดินทาง

สถานีที่อยู่ใกล้สวนริคุกิเอ็นมากที่สุดคือสถานีโคมาโกเมะ (Komagome) ของรถไฟ JR สายยามาโนะเตะ (Yamanote Line) ทางออกทิศใต้ (South Exit) หรือรถไฟโตเกียวเมโทร (Tokyo Metro) สายนัมโบคุ (Namboku Line) ทางออก 2 เดินไปยังประตูหน้าของสวน 7 นาที  หรือใช้สถานีเซ็งโกคุ (Sengoku) ของรถไฟโทเอ (Toei) สายมิตะ (Mita Line) เดินประมาณ 10 นาที

 

2.น้ำตกเคงอน (Kegon)  นิกโก้

น้ำตกเคงอน มีความสูงเกือบ 100 เมตร เป็น 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น(ร่วมกับน้ำตกนาจิ(Nachi Waterfall)ที่วากายามะ และน้ำตกฟูคุโรดะ(Fukuroda Waterfall) ที่อิบารากิ) เป็นจุดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงกลาง-ปลายเดือนตุลาคม

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับน้ำตก

เวลาเปิดทำการ : เดือนมีนาคม~พฤศจิกายน 8:00~17:00 น.
เดือนธันวาคม~กุมภาพันธ์ 9:00~16:30 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็กประถม 330 เยน

วิธีเดินทาง

นั่งรถบัส Tobu ไปจูเซ็นจิโคะออนเซ็นจาก Tobu Nikko Station ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ลงป้าย「Chuzenji-onsen」และเดินต่ออีก 5 นาที

3. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (kawaguchiko) ยามานาชิ

ทะเลสาบคาวากุจิโกะตั้งอยู่ที่เมืองยามานาชิ (Yamanashi) ใกล้กับเมืองโตเกียว (Tokyo) ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มประมาณครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองสลับกันโดยรอบ มุมที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบ และใบเมเปิ้ลได้ก็คือชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบ เป็นจุดนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปและเที่ยวกับกันที่บริเวณนี้ นอกจากนั้นในบริเวณไม่ไกลกันก็เป็นเขตหมู่บ้านชนบทน่ารักที่มีทั้งบ่อน้ำพุร้อน สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และร้านขายของกระจุกกระจิกมากมาย

เทศกาล Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival มีทุกๆปีในหน้าฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมักจะเป็นทั้งเดือนพฤศจิกายน ร้านค้ามากมายมีทั้งอาหารพื้นเมืองและงานฝีมือเรียงรายอยู่ฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบคาวากุจิ มีการประดับไฟต้นเมเปิ้ลในตอนกลางคืนด้วย

เคล็ดลับ: ถ้าอยากเห็นภูเขาไฟฟูจิ ให้วางแผนไปเที่ยวในวันที่ฟ้าโปร่ง ภูเขาไฟฟูจินั้นขี้อายมากๆ แค่ฟ้าครื้มนิดเดียวก็ไม่เห็นแล้ว
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนพฤศจิกายน

วิธีเดินทาง

เดินทางจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากุจิด้วยบัสจะเร็วและราคาถูกที่สุด ทุกวันมีรสบัสจากสถานีชินจุกุ (1 ชั่วโมง 45 นาที ราคา 1,750 เยนต่อเที่ยว) หรือสถานีชิบุย่า (2 ชั่วโมง 30 นาที ราคา 1,800 เยนต่อเที่ยว) ตรงไปยังทะเลสาบคาวากุจิ

หากเดินทางด้วยรถไฟ ให้ขึ้นสาย Chuo ที่สถานีชินจุกุไปยังสถานีโอสึกิ (Otsuki) และเปลี่ยนเป็นรถไฟ Fujikyu เพื่อไปยังคาวากุจิโกะ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าเดินทาง 2,500 เยน

จากสถานี Kawaguchiko จะมีรถบัสออกทุกๆ 15 นาที สายสีแดงพาไปรอบๆทะเลสาบคาวากุจิ สายสีเขียวพาไปทะเลสาบไซโกะ และสายสีน้ำเงินพาไปทะเลสาบโชจิโกะ ค่าโดยสารเที่ยวละ 150 เยน ตั๋ววัน ที่ขึ้นกี่ครั้งก็ได้ราคา 1,500 เยน รถบัสจอดตามป้ายที่สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อต่างๆ อย่าลืมหยิบแผนที่จากที่สถานีมาด้วยนะคะ

วิธีไประเบียงโมมิจิและงานเทศกาลคือ รถบัสสายสีแดง ลงที่ป้าย Itchiku Kubota Art Museum

วิธีไปอุโมงค์โมมิจิคือ รถบัสสายสีแดง ลงที่ป้าย Kawaguchiko Natural Living Center และเดินต่ออีกประมาณ 15-20 นาที

4.วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) เกียวโต

วัดไดโกจิ เป็นวัดที่กินพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเกียวโตจะสวยงามมากในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสวนสไตล์ tsukiyama โดยภายในสวนจะเป็นเนินเตี้ย ประดับตกแต่งด้วยหินขนาดใหญ่ โดยรอบเป็นต้นเมเปิ้ลเรียงรายกันอยู่ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงนั้นใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ให้วิวและบรรยากาศที่สวยงามมากและในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับส่องสว่าง

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมใบไม้แดง : กลางเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.

ข้อมูลทั่วไป

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500เยน นักเรียนมัธยมต้น-มัธยมปลาย 200เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00 – 17:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 17:00น.)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน

วิธีเดินทาง
รถบัส: เดิน 5-10นาที จากป้ายรถบัส Higashiyama Yasui bus stop [รถบัสสาย 100, 206]

5.สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น  (Koishikawa Korakuen) โตเกียว
สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น  สวนที่สวยและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะตอนต้น เป็นสวนที่สร้างโดยเอาสถานที่สวยงามมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาเป็นแรงบันดาลใจเช่น ทะเลสาบบิวะ และเขาอาราชิยามะ ภายในสวนมีต้นเมเปิลกว่า 480 ต้น มีงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ด้านหลังของส่วนแห่งนี้จะมองเห็นวิวโตเกียวโดมและตึกต่างๆ ทำให้เห็นภาพเมืองสมัยใหม่ตัดกับธรรมชาติที่สวยงาม
ข้อมูลทั่วไป

ค่าเข้าชม: 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30)
วันปิดทำการ: 29 ธันวาคม – 1มกราคม

วิธีเดินทาง
เดิน 5-10 นาที จาก Iidabashi Station [JR Chuo Line] เดิน 5-10 นาที จาก JR Suidobashi Station [JR Chuo Line] เดิน 10 นาที จาก Korakuen Station [Marunouchi and Namboku Subway Lines]

6.ทะเลสาบโกชิคินุมะ (Goshikinuma Lake) ฟุคุชิมะ
ทะเลสาบโกชิคินุมะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลสาบ 5 สี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติบันไดอาซาฮี (Bandai-Asahi) เป็นบริเวณที่ประกอบด้วยทะเลสาบ บึงน้อยใหญ่และบ่อน้ำพุร้อน ในบริเวณจะมีบึงอยู่ทั้งหมด 9 บึง แต่ละบึงก็จะมีสีสันสดใสแตกต่างกันไป ระหว่างบึงจะเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ด้วย ตลอดเส้นทางที่เดินจะรายล้อมไปด้วยสีสันของใบไม้ตัดกับสีของน้ำทะเลสาบที่มีตั้งแต่ฟ้าครามไปจนถึงเขียวอมแดง เป็นภาพธรรมชาติที่สวยแปลกตาและหาชมได้ที่นี่เท่านั้น

ข้อมูลทั่วไป
เวลาทำการ : เปิดทำการตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชม : ไม่มี

วิธีการเดินทาง
นั่งรถไฟ JR สาย Banetsu West Line ไปลงที่สถานี Inawashiro แล้วต่อรถบัสสาย Bandai Higashi Miyako Bus ไปลงที่ป้าย Urabandai-kogen-eki หรือ Goshikinuma-Iriguchi-eki ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

7.ถนนบันได-อะซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline) ฟุคุชิมะ
หนึ่งในถนนที่ได้รับการยอมรับว่ามีวิวสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการขับรถชมใบไม้แดงบนภูเขาอะซุมะ เป็นอย่างยิ่ง มีระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร ตัดผ่านกลางอุทยานแห่งชาติบันได-อาซาฮี เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองน้ำพุร้อนทากายุ (Takayu Onsen) กับหุบเขาทสึจิยุ (Tsujiyu Pass) หากแวะไปที่ยอดเขา Azuma-Kofuji ที่มีความสูงกว่า 1,707 เมตร (ซึ่งมีจุดจอดรถอยู่ใกล้ๆยอดเขา) สามารถนำรถไปจอดและเดินขึ้นยอดเขาได้ง่ายๆไม่เหนื่อยมาก บนยอดเขาเมื่อมองลงมาจะเห็นแนวป่าไม้สีสดๆทั่วทั้งภูเขา และสามารถถ่ายภาพวิวพาโนรามาสวยๆได้ด้วยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

ข้อมูลทั่วไป
เวลาทำการ : ถนนจะปิดไม่ให้ผ่านตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนเมษายนเนื่องจากหิมะ
ค่าเข้าชม : ไม่มี

การเดินทาง
จากสถานีรถไฟ Fukushima เดินทางไปโดยรถยนต์เช่าขับจะเหมาะที่สุด หากต้องการไปยอดเขา Azuma-Kofuji ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

8.ทะเลสาบโทวาดะ (Towada lake) อาโอโมริ
ทะเลสาบโทวาดะแห่งนี้เกิดจากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สงบแล้ว ไฮไลท์ของการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี่ที่นี่คือ การนั่งเรือล่องทะเลสาบโทวาดะชมธรรมชาติรอบๆทะเลสาบ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮะจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) หรือการเดินไปตามริมลำธารโออิราเซะ (Oirase Stream) ซึ่งเป็นลำน้ำเล็กๆเชื่อมกับทะเลสาบโทวาดะ เส้นทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นิยมกันจะเริ่มจากทะเลสาบโทวาดะ เลียบลำธารไปเรื่อยๆ จนไปถึงน้ำตกโจชิ โอทากิ (Choshi Ootaki) เป็น ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทางเดินเน้นชมวิว ใครๆก็เดินได้ไม่ลำบากมาก มีการปูพื้นที่ดีในระดับนึง สามารถเดินได้สบายๆไม่ต้องมีเครื่องมือปีนเขาหรือรองเท้าพิเศษ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม

ข้อมูลทั่วไป
เวลาทำการ : บริการล่องเรือตั้งแต่ 08.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มี

การเดินทาง
เริ่มที่สถานี Aomori จะสะดวกที่สุด โดยสามารถนั่งรถบัส JR Bus Tohoku ที่จุดจอดรถบัสหมายเลข 11 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

9.คามิโคจิ (Kamikochi ) นากาโน่
คามิโคจิ เป็นหุบเขาที่อยู่บนที่ราบสูงในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) แหล่งชมเทือกเขาสูงและสายธาราใสบริสุทธิ์ในทุกฤดูกาล จุดชมทัศนียภาพอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร มีฉากหลังอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น และความงดงามของแม่น้ำอาซูสะสีฟ้าอมเขียวอยู่เบื้องล่าง สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เดินป่าที่ได้รับความนิยมมากจุดเริ่มต้นจะเริ่มที่ “สะพานคัปปะ” สะพานอันเป็นสัญลักษณ์ของคามิโคจิ ปลายสายของแม่น้ำจะอยู่ที่สระน้ำไทโช ผืนน้ำที่สะท้อนกับเทือกเขาโฮทากะก่อให้เกิดภาพสะท้อนที่งดงาม
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม

ข้อมูลทั่วไป
เวลาทำการ : จะเปิดช่วงฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูใบไม้ร่วง และปิดในช่วงหน้าหนาวโดยจะเปิดตั้งแต่กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี

การเดินทาง
จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟ JR สาย Chuo ขบวน rapid มาลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลา 15 นาที ออกทางออก ฝั่งใต้ และเดินต่อ 1 นาที จาก บัสเทอมินัลชินจูกุ ขึ้นรถบัส Sawayaka Shinshu มาใช้เวลา 4 ชั่วโมง 45 นาที

10.ถนนต้นแปะก๊วย สวนเมจิจิงกูไกเอ็น (Icho namiki, Meiji Jingu Gaien) โตเกียว
ถนนต้นแปะก๊วยของสวนเมจิจิงกูไกเอ็น มีต้นแปะก๊วย 146 ต้นที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนนยาว 300 เมตร ภายในมีการจัดงานเทศกาลชมต้นแปะก๊วยจิงกูไกเอ็น (Jingugaien Gingko Festival) ในงานมีการออกร้านขายของที่ระลึกประเภทงานฝีมือและอาหารต่างๆมากมาย และมีผู้คนมาเที่ยวชมงานกันเนืองแน่นครึกครื้นค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

การเดินทาง
– เดินจากสถานี Gaien-mae รถไฟใต้ดินสาย Ginza ทางออก 4A ประมาณ 3 นาที
– เดินจากสถานี Aoyama-itchome รถไฟใต้ดินสาย Hanzomon, Ginza หรือรถไฟ Toei สาย Oedo ทางออกหมายเลข 1 ประมาณ 5 นาที

Leave a Reply